การเติมบมยาง

การเติมลมยาง


การเช็คความดันของยางรถยนต์เป็นการซ่อมบำรุงเบื้องต้นที่ผู้ใช้รถควรทำเป็นประจำเดือนละ 2 ครั้ง หรือต้องทำเสมอก่อนการเดินทางไกล หรือต้องการขับรถที่จอดทิ้งเอาไว้เฉย ๆ นานหลายวัน เนื่องด้วยเหตุผลสำคัญ 3 ประการ คือ 

1. ปรับแรงดันในล้อให้เหมาะสม เพิ่มความนุ่มนวลและประสิทธิภาพขณะขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการยึดเกาะผิวถนน และระยะเบรก อันจะส่งผลถึงเรื่องความปลอดภัยขณะขับขี่ของคุณ 


2. ชะลอการสึกหรอที่จะเกิดขึ้นกับยาง เพราะหากลมยางอ่อนเกินไปจะทำให้ส่วนขอบยางหรือแก้มยางสึกไว ในขณะที่ถ้าลมยางมากเกินไป ก็จะทำให้ล้อแข็ง ส่วนตรงกลางของล้อจะสัมผัสผิวถนนมากที่สุดและสึกได้ไวที่สุด เมื่อยางเกิดการสึกหรอ แม้จะไม่สม่ำเสมอเท่ากันทั้งเส้น ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนยางใหม่ เรียกว่าจำใจต้องเปลี่ยนไปทั้งเส้น ทั้ง ๆ ที่ยังใช้งานได้ไม่คุ้มค่าด้วยซ้ำ 


3. ลดการกินน้ำมันของรถโดยไม่จำเป็น เพราะแรงดันในยางที่ไม่เหมาะสมส่งผลต่อประสิทธิภาพการเร่งความเร็วของรถด้วย

ว่ากันซื่อ ๆ ความสำคัญของการเช็คและเติมลมยางให้เหมาะสมก็เพื่อเซฟยาง เซฟเงิน เซฟชีวิตของตัวคุณและผู้ร่วมทางนั่นเองครับ อีกทั้งการเช็ครวมถึงเติมลมยางยังเป็นเรื่องหมู ๆ ที่ผู้ใช้รถไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิงก็สามารถทำได้เองง่าย ๆ อาศัยอุปกรณ์แค่ไม่กี่ชิ้นเท่านั้น 


อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการเช็คลมยาง ได้แก่ เกจ์วัดลมยางที่ได้มาตรฐาน และเครื่องปั๊มลมลากจูง อย่างไรก็ดีคุณสามารถใช้สิ่งของทั้งสองนี้ได้ฟรีตามปั๊มน้ำมันใหญ่ ๆ แต่สิ่งที่ควรพึงระลึกไว้ก็คือ เกจ์วัดลมตามปั๊มนั้นถูกใช้งานมามาก อาจเกิดความคาดเคลื่อนในค่าที่วัดได้ ใครรักรถและเตินทางบ่อย จะซื้อเครื่องเช็คลมยางติดรถเอาไว้ใช้เองสักอันก็เป็นความคิดที่ไม่เลวทีเดียว

ทั้งนี้การวัดและเติมลมยังควรทำก็ขณะยางเย็นอยู่ หรือเพิ่งวิ่งมาไม่เกิน 2 กิโลเมตร นั่นหมายความว่าหากคุณวิ่งรถมาไกลแล้วจะแวะปั๊มเพื่อเช็กและเติมลมยางเลยย่อมไม่สามารถทำได้ เพราะการเสียดสีที่เกิดขึ้นในช่วงที่รถวิ่งมาไกลทำให้ล้อร้อนขึ้น ซึ่งทำให้อากาศภายในยางขยายตัว แรงดันล้อจึงเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ หากเป็นเช่นนี้จำเป็นจะต้องพักรถจนเครื่องยนต์และล้อเย็นลง ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานถึง 2-3 ชั่วโมง (อาจน้อยกว่านี้หากขับมาบนนถนนที่ไม่ร้อน หรือขับมาในช่วงดึก-เช้า) จึงจะทำการวัดและเติมลมยางได้ หรือหากจำเป็นต้องเติมลมยางขณะรถเพิ่งวิ่งทางไกลมากจริง ๆ ให้เติมเกินจากค่าความดันที่เหมาะสมไปอีก 2 ปอนด์ เพื่อชดเชยกับความดันในล้อที่จะลดลงเมื่อรถได้พัก และล้อเย็นตัวลงสู่สภาพปกติ 


ส่วนการเช็กลมยางคุณก็สามารถทำได้เองง่ายมาก ๆ แค่หมุนจุกยางล้อออก และเสียบเกจ์วัดลมยางเข้าไป ค้างไว้เพียงครู่เดียวก็จะสามารถอ่านค่าแรงดันยางจากหน้าปัดแสดงผลได้ (มีทั้งแบบเข็มและแบบดิจิตัล) หลังจากทราบค่าแรงดันลมยางแล้ว คราวนี้ก็สามารถทำการเติมลมเพื่อเพิ่มความดันที่เหมาะสมได้ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่ 28-32 ปอนด์/ตร.นิ้ว (psi) อาจมากหรือน้อยกว่านี้ตามชนิดของรถและประเภทการใช้งาน โดยคุณสามารถอ้างอิงตัวเลขที่เหมาะสมกับรถของคุณได้จากตารางแรงดันลมที่อยู่ในคู่มือการใช้รถของคุณ 


เคล็ดลับในการเติมลมให้ได้แรงดันที่พอดี คือเติมให้รู้สึกว่าเกินจุดพอดีไปสักนิด จากนั้นวัดแรงดันใหม่ แล้วค่อยปล่อยลมออกจนได้ค่าที่เหมาะสม วิธีนี้จะง่ายกว่าค่อย ๆ เติมลมขยักขย่อนทีละน้อย ทั้งนี้แรงดันที่เหมาะสมสำหรับยางล้อหน้าและล้อหลังอาจไม่เท่ากัน และล้อแต่ละล้อสามารถถอดมาสลับตำแหน่งกัน โดยปกติควรสลับทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร เพื่อให้ดอกยางสึกกร่อนสม่ำเสมอกันทุกล้อ ซึ่งการเปลี่ยนสลับตำแหน่งล้อคุณก็สามารถทำได้เองเช่นกัน คอยติดตามเรื่องการเปลี่ยนสลับตำแหน่งล้อด้วยตัวเอง ที่กระปุกคาร์จะนำมาฝากคนรักรถกันในโอกาสต่อไปนะครับ

ข่าวสารอื่นๆ

ถึงที่หมายปุ๊บ ดับเครื่องยนต์ได้เลยไหม?

รู้หรือไม่ ใบขับขี่หมดอายุ ต้องต่อภายในกี่วัน

เช็คความพร้อมก่อนเดินทาง

วิธีดูแลสีรถ หน้าฝน