วิธีการหมุนเลี้ยวพวงมาลัยที่ถูกต้อง
การขับรถเชิงป้องกันอุบัติเหตุนั้น ได้กำหนดการหมุนเลี้ยวพวงมาลัยไว้ 2 วิธีคือ แบบดัน-ดึง (Push and Pull)
และแบบคร่อมแขน (Hand over Hand) ทั้งสองแบบนี้ใช้งานได้คล่องตัวมากที่สุด และเป็นที่ยอมรับในระบบสากล
การหมุนเลี้ยวพวงมาลัยแบบ ดัน-ดึง (Push and Pull)
1.จับพวงมาลัยตามตำแหน่งที่ถูกต้อง ให้หัวแม่มืออยู่นอกวงพวงมาลัย และไม่ต้องจับแน่นจนเกินไป และต้องตั้งข้อกำหนดขึ้นมาว่า
เวลาหมุนเลี้ยวพวงมาลัยมือทั้งสองข้างต้องไม่ข้ามจุดเที่ยงวันและหกโมงเย็น ตามตำแหน่งนาฬิกา ในการหมุนเลี้ยวพวงมาลัย
มือทั้งสองข้าง จะทำหน้าที่สลับกันระหว่างการดึงและการดันโดยที่จะไม่ดึงหรือดันพร้อมๆ กันทั้งสองมือ เมื่อจะเลี้ยวขวาให้เลื่อน
มือขวา รูดผ่านพวงมาลัยขึ้นมาที่ตำแหน่งเที่ยงวัน
2.จากนั้นมือขวาก็ดึงพวงมาลัยมาสู่ตำแหน่งหกโมงเย็น ในขณะที่มือขวาดึงพวงมาลัยลงอยู่นั้น ให้รูดมือซ้ายผ่านวงพวงมาลัย
ขนานคู่กับมือขวาลงมาสู่ตำแหน่งหกโมงเย็น และพบกับมือขวาที่ตำแหน่งหกโมงเย็น
3.ถ้าวงเลี้ยวยังไม่พอโดยที่มือซ้ายต้องดันพวงมาลัยจากตำแหน่งหกโมงเย็นขึ้นไปหาตำแหน่งเที่ยงวัน และมือขวารูดพวงมาลัย
ขึ้นไปสู่ตำแหน่งเที่ยงวันพร้อมๆ กับมือซ้าย เช่นเดียวกันถ้าวงเลี้ยวยังไม่พอให้มือขวาก็ดึงพวงมาลัยลงเพิ่มขึ้นทำอย่างนี้เรื่อยๆ
ไปจนได้วงเลี้ยวที่ต้องการ
การหมุนเลี้ยวพวงมาลัยแบบคร่อมแขน (Hand over Hand)
1.จับพวงมาลัยตำแหน่งที่ถูกต้อง เมื่อจะเลี้ยวซ้าย ให้น้ำหนักมือขวาดันพวงมาลัยหมุนทวนเข็มนาฬิกาช่วงครึ่งวงด้านบนของ
พวงมาลัย โดยมือซ้ายหมุนตามไปช่วงครึ่งวงด้านล่าง ซึ่งสามารถหมุนเลี้ยวพวงมาลัยได้ประมาณ 180 องศา
โดยไม่ต้องปล่อยมือทั้งสองข้าง
2.เลื่อนมือขวามาเตรียมพร้อมรับช่วงที่ประมาณ 3 นาฬิกาต่อเมื่อมือซ้ายไปถึงที่ประมาณ 9 นาฬิกา ลักษณะเป็นการสาวสลับมือ
ช่วงครึ่งวงด้านบนของพวงมาลัยจาก 3 ไป 9 นาฬิกา ซึ่งเป็นลักษณะการหมุนพวงมาลัยแบบคร่อมแขน (Hand over Hand)
ในการหมุนคืนพวงมาลัยกลับ (จากการเลี้ยวซ้าย) ใช้การสลับมือครึ่งวงด้านบนของพวงมาลัยทำนองเดียวกันกับการ
หมุนตามเข็มนาฬิกา โดยการใช้มือขวาดึง และมือซ้ายดันจาก 9 ไป 3 นาฬิกา ถ้าทำการสลับมือกลับตามนี้แล้ว เมื่อรถวิ่ง
ตรงมือขวาจะอยู่ที่ 3 นาฬิกา และมือซ้ายอยู่ที่ 9 นาฬิกาเหมือนตอนตั้งต้น
วิธีนี้ทำให้มือทั้งสองไม่ต้องปล่อยพวงมาลัยในกรณีที่หักพวงมาลัยไม่เกิน 180 องศา ซึ่งเป็นการขับขี่ในการจราจรปกติส่วนใหญ่
และสามารถตอบสนองต่อการเลี้ยวในสถานการณ์ฉุกเฉินได้เร็วที่สุด